‘สุรดิษ’ซิวแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สาม ศึกสิงห์-เอสเอที ชะอำ ที่เลควิว

สุรดิษ ยงค์เจริญชัย นักกอล์ฟวัย 25 ปีจากนครปฐม เร่งเครื่องรอบสุดท้ายด้วยการเก็บ 7 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ก่อนจบวัน 7 อันเดอร์พาร์ 63 รวมสี่วัน 16 อันเดอร์พาร์ 264 เฉือน พรหม มีสวัสดิ์ และ ศรัณย์ ศิริธร 2 สโตรก คว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สามในอาชีพ ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการสิงห์-เอสเอที ชะอำ แชมปเปียนชิพ 2023 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามเลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟคลับ ระยะ 6,850 หลา พาร์ 70 อ. ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน “สิงห์-เอสเอที ชะอำ แชมเปียนชิพ

สุรดิษ ยงค์เจริญชัย นักกอล์ฟวัย 25 ปีจากนครปฐม เร่งเครื่องรอบสุดท้ายด้วยการเก็บ 7 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ก่อนจบวัน 7 อันเดอร์พาร์ 63 รวมสี่วัน 16 อันเดอร์พาร์ 264 เฉือน พรหม มีสวัสดิ์ และ ศรัณย์ ศิริธร 2 สโตรก คว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สามในอาชีพ ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการสิงห์-เอสเอที ชะอำ แชมปเปียนชิพ 2023 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามเลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟคลับ ระยะ 6,850 หลา พาร์ 70 อ. ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา

สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน “สิงห์-เอสเอที ชะอำ แชมเปียนชิพ 2023” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท จากการสนับสนุนร่วมกันของ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท., กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, น้ำดื่มสิงห์, บริดจสโตน, อินฟินิท, บริษัท อะเบ้าท์ กราส จำกัด และ บริษัท เมเนจเม้นท์ โดยรายการนี้เป็นแมตช์ที่สามของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2023 แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 72 หลุม ระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคม 2566 ณ สนามเลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟคลับ ระยะ 6,850 หลา พาร์ 70 อ. ชะอำ จ.เพชรบุรี

การแข่งขันรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา สุรดิษ ยงค์เจริญชัย นักกอล์ฟวัย 25 ปีที่เริ่มต้นวันด้วยการตามหลังกลุ่มผู้นำร่วม 1 สโตรกหลังรอบสามฟอร์มหลุดตีเกินไป 2 โอเวอร์พาร์ 72 แต่ในรอบสุดท้ายนักกอล์ฟวัย 25 ปีจากนครปฐมเปิดฉากด้วย 2 เบอร์ดี้ในสองหลุมแรก ก่อนเก็บเพิ่มอีก 5 เบอร์ดี้ และจบวันโดยไม่เสียโบกี้ ขึ้นคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 63 รวมสี่วัน 16 อันเดอร์พาร์ 264 คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัลไปครอง 240,000 บาท

นับเป็นการคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สามในอาชีพของ สุรดิษ ต่อจากชัยชนะที่ กัซซัน เลกาซี กอล์ฟคลับ เมื่อปี 2017 และบลูแซฟไฟร์ กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท เมื่อเดือนกันยายน 2020 ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “รู้สึกดีครับ อยากจะขอบคุณทุกคนในทีมทำงาน โค้ชฟิตเนส โค้ชสวิง และอีกหลายคนรวมถึงพ่อแม่ที่ทำให้ทุกอย่างเริ่มกลับมา ปีที่แล้วผลงานไม่ค่อยดี แต่ปีนี้ผลงานค่อยๆกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะถึงขนาดมาคว้าแชมป์ได้ได้ก็โอเคครับ”

สุรดิษ ยังกล่าวถึงการเล่นในรอบสุดท้ายด้วยว่า “ออกไปวันนี้ตีดีครับ ทุกอย่างตามแผน ตีช็อตแอพโพรชเข้าไปใกล้ค่อนข้างเยอะและพัตต์ดี เลยทำให้เกมลื่นไหลขึ้น สัปดาห์นี้ตีเหล็กดีถึงค่อนข้างดีมาก ตีเวดจ์ ตีเหล็กขึ้นไปออนใกล้ๆเยอะมาก เพราะตอนแรกที่มาแมตช์นี้มาเน้นซ้อมแอพโพรช ซ้อมเหล็ก เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาไปแข่งที่เกาหลีตีเหล็กไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตั้งใจกลับมาแก้ไขในสัปดาห์นี้ กลับมาเวิร์กได้วันสองวันแล้วมาแข่ง ความรู้สึกตอนซ้อมกับในสนามตอนแข่งถือว่าออกมาดีมาก ได้ผลงานออกมาดีอย่างที่ต้องการ”

อันดับสองเป็น พรหม มีสวัสดิ์ นักกอล์ฟวัย 38 ปีจากหัวหินที่มารีดฟอร์มในรอบสุดท้ายด้วยการหวดเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสี่วัน 14 อันเดอร์พาร์ 266 เท่ากับ ศรัณย์ ศิริธร นักกอล์ฟวัย 28 ปีจากขอนแก่นที่ออกสตาร์ตรอบสุดท้ายในรอบสุดท้ายในฐานะผู้นำร่วมก่อนจบสกอร์วันสุดท้ายเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 66 แบ่งเงินรางวัลกันคนล่ะ 110,500 บาท ขณะที่ ภัทรพล ขันทะชา (69) หนึ่งในสามผู้นำร่วมหลังจบรอบสาม จบการแข่งขันในอันดับสี่ร่วมกับ พีรดนย์ ปัญญาธนะเศรษฐ์ (68) ด้วยสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 269 และ มินห์ยอก ยาง (70) จากเกาหลีใต้ จบอันดับหกร่วมกับ ประหยัด มากแสง (67) ที่สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 270

SINGHA-SAT Cha-am Championship 2023
1 of 3

ข้อมูลจาก : สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย : https://thailandpga.or.th/