สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย (สกอท.) ประกาศโปรแกรมการแข่งขันในปี 2022 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มแมตช์แรกในศึก ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ กับรายการ สิงห์-เอสเอที ปราจีนบุรี แชมเปี้ยนชิพ 2022 ณ สนามกบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ จ.ปราจีนบุรี วันที่ 21-27 มี.ค.นี้ ชิง 2 ล้านบาท ด้าน โปรเอกซ์ เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมฯ เน้นย้ำการพัฒนานักกอล์ฟให้ก้าวสู่ระดับสากล พร้อมเดินหน้าเอาจริงเอาจังเรื่องกฏกติกา และปราบการใช้เล่ห์เหลี่ยมในระหว่างการแข่งขัน ล่าสุดสมาคมกีฬากอล์ฟได้เปิดโปรแกรมการแข่งขันในฤดูกาลปี 2022 อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางสถานการณ์การป้องกันไวรัส โควิด-19 ที่ต้องมีการร่วมมือกับการภาครัฐในการวางมาตรการแข่งขันอย่างปลอดภัย ทั้งนี้สมาคมจะจัดให้มีการแข่งขันใน ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ ทั้งสิ้น 8 ราการ ชิงเงินรางวัลรายการละ 2 ล้านบาท และแมตช์สุดท้ายที่มีขึ้น ณ สนาม สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย (สกอท.) ประกาศโปรแกรมการแข่งขันในปี 2022 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มแมตช์แรกในศึก ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ กับรายการ สิงห์-เอสเอที ปราจีนบุรี แชมเปี้ยนชิพ 2022 ณ สนามกบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ จ.ปราจีนบุรี วันที่ 21-27 มี.ค.นี้ ชิง 2 ล้านบาท ด้าน โปรเอกซ์ เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมฯ เน้นย้ำการพัฒนานักกอล์ฟให้ก้าวสู่ระดับสากล พร้อมเดินหน้าเอาจริงเอาจังเรื่องกฏกติกา และปราบการใช้เล่ห์เหลี่ยมในระหว่างการแข่งขัน
ล่าสุดสมาคมกีฬากอล์ฟได้เปิดโปรแกรมการแข่งขันในฤดูกาลปี 2022 อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางสถานการณ์การป้องกันไวรัส โควิด-19 ที่ต้องมีการร่วมมือกับการภาครัฐในการวางมาตรการแข่งขันอย่างปลอดภัย ทั้งนี้สมาคมจะจัดให้มีการแข่งขันใน ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ ทั้งสิ้น 8 ราการ ชิงเงินรางวัลรายการละ 2 ล้านบาท และแมตช์สุดท้ายที่มีขึ้น ณ สนาม สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟ คลับ ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท รวมเป็นเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 17 ล้านบาท ขณะที่ในศึก ไทยแลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทัวร์ (ทีดีที) มีการแข่งขันกันทั้งสิ้น 8 รายการชิงเงินรางวัลรายการละ 1 ล้านบาท รวมเป็นเงินรางวัลทั้งสิ้น 8 ล้านบาท และในศึก ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ ทัวร์ (ทีซีที) จัดแข่งทั้งหมด 7 รายการชิงเงินรางวัลรายการละ 1.1 ล้านบาท รวมเป็นเงินราวัลรวม 7.7 ล้านบาท โดยเงินรางวัลทั้งหมดของปีนี้ที่ทางสมาคมจะใช้ในการจัดการแข่งขันทั้งสิ้น 32.7 ล้านบาท
“โปรเอกซ์” เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมฯ เผยถึงการแข่งขันในปีหน้าว่า “เราได้มีการวางตารางแข่งขันแล้ว ทั้งนี้ก็หวังว่าปีนี้จะสามารถจัดการแข่งขันได้อย่างราบรื่น เนื่องจากเข้าใจการทำงานร่วมกับภาครัฐมากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาเราต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตอย่างมากมาย ปีนี้เราจะไม่มี วันเดย์ ทัวร์ ให้แข่งขัน เนื่องจากนั่นไม่ใช่เป้าหมายในการพัฒนา แต่ก็กำลังพยายามเดินเรื่องที่จะมีการจัดการแข่งขันอยู่ และปีนี้การแข่งทั้งในศึก ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ และ ทีดีที จะกลับมาจัดการแข่งขันแบบแยกสัปดาห์ และในศึกใหญ่ก็จะกลับมาแข่งในระบบ 4 วัน 72 หลุมตามเดิม ซึ่งจะมีการเซตสนามให้ยากขึ้น เพื่อมุ่งเน้นในการพัฒนานักกีฬาในการก้าวไปสู่การแข่งขันในต่างประเทศไทย”
นอกจากนั้น นายกเอกซ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า “ปีที่ผ่านมา ถือเป็นอีกปีที่เราได้เห็นนักกอล์ฟหน้าใหม่ๆ มาคว้าแชมป์แรกกันมากมาย ทำให้รู้สึกถึงการพัฒนาที่ดีขึ้นของวงการกอล์ฟในบ้านเรา และบรรดานักกอล์ฟดาวรุ่งหน้าใหม่ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากนักกอล์ฟรุ่นใหม่ และโปรทัวร์ในปัจจุบันว่า ทางสมาคมไม่เคยนิ่งนอนใจ และยังคงสอดส่องดูแลพฤติกรรมของนักกอล์ฟทุกคนที่เข้ามาร่วมการแข่งขัน โดยเฉพาะเรื่องใช้เล่ห์เหลี่ยมในระหว่างการแข่งขัน ที่ผ่านมาอาจจะมีเล็ดรอดไปบ้าง แต่ในปีนี้เราพร้อมผนึกกำลังกับกรรมการ และเจ้าหน้าที่กฏในการดูแลการแข่งขันให้เป็นไปอย่างขาวสะอาด เพราะเกมส์กอล์ฟ เป็นเกมส์การแข่งขันที่มีเกียรติ และอยากให้ทุกคนได้ปฏิบัติตาม เพื่อนี่จะเป็นแนวทางให้กับทุกคน โดยเฉพาะการต้องเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ”
ข้อมูลจาก : สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย : https://thailandpga.or.th/