ประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ครั้งที่ 1/2564

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ครั้งที่ 1/2564 ร่วมด้วย พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ประธานอนุกรรมการดำเนินการ , นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

ตามที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC/ไอโอซี) ได้ให้การรับรองมวยไทย และสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (IFMA/อิฟม่า) เป็นสมาชิกแบบถาวรนั้น คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการต่อยอดผลักดันศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย ไปสู่กีฬาโอลิมปิกให้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการฯ โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน และยังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินการฯ คณะที่ปรึกษา และคณะทำงานด้านต่าง ๆ จากทุกภาคส่วน ที่มีความรู้ ความสามารถ เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายให้กีฬามวยไทย สู่โอลิมปิกดำเนินไปอย่างเป็นรูปแบบที่ชัดเจน อีกทั้งเพื่อบริหารจัดการและการบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ

จากนั้นที่ประชุมรับทราบแผนการดำเนินงานตาม (Roadmap) ประจำปี 2564 โดยมีแผนงานหลัก ประกอบด้วย 1.สร้างความสัมพันธ์กับองค์กรที่เกี่ยวข้อง 2.การประสานงานเจ้าภาพและคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และ 3.สร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าภาพและคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ด้วยการจัดกิจกรรมหลักการแข่งขันกีฬามวยไทย สำหรับกิจกรรมหลักในการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ในปี 2564 ดังนี้ IFMA Virtual Championship, Fox Sport Muaythai, IFMA World Championships & Festival ส่วนในปี 2565 World Games , FISU University World Cup Combat Sports , Asian Games , Asian Indoor and Martial Arts Games ในปี 2566 European Games , World Combat Games และสุดท้ายกีฬามวยไทยจะได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ ในอนาคต

นอกจากนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายในการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ดังนี้ 1. การขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิกจะสำเร็จได้ ต้องตั้งใจและจริงจัง เนื่องด้วยขอบเขตของงาน และระยะเวลาที่จำกัด ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งได้ผ่านการพิจารณากลั่นกรองมาแล้วเป็นอย่างดี จนได้รับเกียรติที่สำคัญนี้ ขอให้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ทั้งหมด อย่างเต็มที่ เต็มขีดความสามารถ มีความมุ่งมั่น เสียสละ ทุ่มเท ระดมกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา ร่วมกันคิด และกำหนดหนทางการปฏิบัติทีก่อให้เกิดผลสำเร็จ 2.การดำเนินการตามแผนและโครงการมุ่งสู่กิจกรรมใดๆ ก็ตาม ขอให้ยึดถือความถูกต้อง โปร่งใส ชัดเจน มีเหตุมีผล สามารถตรวจสอบได้ และที่สำคัญต้องทันเวลา 3. การใช้งบประมาณเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะได้รับจากทางภาครัฐ หรือเอกชน ขอให้คุ้มค่าและเป็นประโยชน์มากที่สุด และ 4. คณะอนุกรรมการดำเนินการขับเคลื่อนฯ ถือว่าเป็นกลไกหลัก ภายใต้การอำนวยการ กำกับดูแล และให้คำแนะนำของคณะอนุกรรมการอำนวยการฯ เพื่อให้ทุกภาคส่วนทั้งคณะผู้ปฏิบัติงานขับเคลื่อนฯ ในระดับต่างๆ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ความร่วมมือกัน อย่างเต็มที่ เพื่อลดอุปสรรคต่างๆ ก่อให้เกิดความราบรื่นในการทำงาน และบรรลุเป้าหมาย นำกีฬามวยไทยเข้าบรรจุในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกให้ได้ และยืนยันว่ารัฐบาล จะส่งเสริมและสนับสนุนกีฬามวยไทย อย่างเต็มขีดความสามารถ เพราะพวกเรามีเป้าหมายร่วมกัน คือการผลักดันให้กีฬามวยไทยได้บรรจุ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปี 2024 ครั้งที่ 33 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ข้อมูลจาก : สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย : https://www.sat.or.th/

Leave a Reply