ปมสำคัญ เจอร์ราร์ด พา เรนเจอร์ส ชูแชมป์ลีกแรกในรอบทศวรรษ

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง ช่วงต้นปี 2021 เหล่าเดอะค็อป
อ่านข่าวต้นฉบับ: ปมสำคัญ เจอร์ราร์ด พา เรนเจอร์ส ชูแชมป์ลีกแรกในรอบทศวรรษ

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

ช่วงต้นปี 2021 เหล่าเดอะค็อป ล้วนกลุ้มใจกันถ้วนหน้าจากผลงานของทีมรักที่ย่ำแย่ ข่าวดีเพียงไม่กี่อย่างของแฟนบอล “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กลับกลายเป็นเรื่องผลงานของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันขวัญใจตลอดกาลของแฟนบอลซึ่งไปคว้าแชมป์ลีกสกอตกับสโมสรเรนเจอร์ส

เกือบ 30 ปีที่ผ่านมา แชมป์ลีกสกอตแลนด์สลับไปมาระหว่าง 2 ทีมใหญ่อย่างเซลติกกับเรนเจอร์ส เรื่องนี้เป็นที่รับรู้กันเสมอจนอาจทำให้ความน่าสนใจของฟุตบอลลีกสกอตเริ่มลดน้อยลงในสายตาแฟนบอลนอกสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในรอบทศวรรษที่ผ่านมานี้ แชมป์ลีกไปอยู่ในมือของเซลติกทุกปีเป็นระยะเวลา 9 ฤดูกาลติดต่อกัน กระทั่งในฤดูกาล 2020-21 ซึ่งเรนเจอร์สได้กุนซือมือใหม่ของวงการพาไปสู่แชมป์

นับตั้งแต่แขวนสตั๊ดอำลาสนามเมื่อปี 2016 เจอร์ราร์ดทำงานกุนซือทีมใหญ่อย่างเต็มตัวเมื่อปี 2018 โดยมีเรนเจอร์สเป็นสโมสรแรกที่อดีตแข้งทีมชาติอังกฤษเริ่มต้นเส้นทางสายกุนซือเบื้องหลัง ระยะเวลา 2 ฤดูกาลในการฟื้นฟูเรนเจอร์สให้กลับมาชูแชมป์ หยุดยั้งอิทธิพลของเซลติกตลอดทศวรรษ เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับปรากฏการณ์ที่เจอร์ราร์ดสร้างขึ้นในวงการลูกหนัง

เจอร์ราร์ดเคยเอ่ยปากว่า เรนเจอร์สเคยผ่านจากนรกมาแล้วก่อนจะกลับมาสู่เส้นทางในทุกวันนี้ สำหรับแฟนบอลเรนเจอร์สการเปรียบเทียบแบบนี้อาจไม่ห่างจากความรู้สึกของพวกเขาเท่าไหร่ แฟนบอลเห็นทีมเคยประสบภาวะการเงินอย่างหนักเป็นสาเหตุให้พวกเขาตกชั้นไปอยู่ลีกอาชีพระดับต่ำที่สุดเมื่อฤดูกาล 2012-13 พวกเขาใช้เวลาไต่ระดับกลับมาราว 4 ปี ซึ่งช่วงเวลาอันยากลำบากของสโมสรเก่าแก่แห่งนี้ไม่เพียงต้องทำงานหนัก แฟนบอลย่อมเจ็บปวดที่เห็นเซลติกประสบความสำเร็จครองแชมป์แบบไร้คู่ปรับ

การเข้ามาของเจอร์ราร์ดถูกตุังคำถามตั้งแต่ต้น แม้ว่าลีกสกอตอาจยังไม่ได้เป็นลีกฮิตเท่าลีกใหญ่อื่นในยุโรป แต่ก็มีแฟนบอลเหนียวแน่น สโมสรใหญ่ที่สุดก็มีเพียงเรนเจอร์สและเซลติก งานใหญ่กับเรนเจอร์สเริ่มต้นหลังจากเขาเพิ่งเริ่มเส้นทางสายกุนซือจากแค่คุมทีมระดับเยาวชน สถิติเกมคุมทีมระดับเยาวชนของเจอร์ราร์ดก็ใช่ว่าจะสมบูรณ์แบบ ดังนั้น การพาทีมก้าวขึ้นมาเพื่อยุติยุคของเซลติกคู่ปรับตลอดกาลในลีกคงไม่ได้ถูกคาดหวังว่าจะเกิดในระยะเวลาอันสั้นแค่ไม่กี่ฤดูกาลขนาดนี้

อันที่จริงแล้ว ฤดูกาลแรกของเจอร์ราร์ดก็พาเรนเจอร์สจบอันดับ 2 ตามหลังเซลติก ที่ได้แชมป์ไปอยู่ 9 คะแนน ขณะที่ผลงานในรายการถ้วยยุโรปของเรนเจอร์สก็น่าสนใจจนเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเรียกความมั่นใจจากแฟนบอลมากกว่าเดิม เมื่อเรนเจอร์สามารถล้มทีมระดับใกล้เคียงกันจากลีกในทวีปยุโรปได้

ฤดูกาล 2019-20 อาจไม่ค่อยชัดเจนนักเนื่องจากสภาพลีกฟุตบอลเจอปัญหาจากวิกฤตโควิด-19 ระบาด จนต้องยุติการแข่งขันและคำนวณค่าเฉลี่ยของแต้มต่อนัดที่แต่ละทีมทำได้ ครั้งนี้ก็เป็นเซลติกที่มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเรนเจอร์สไปอีก เจอร์ราร์ดเองก็เริ่มปรับตัวกับการทำงานกุนซือที่แบกรับความคาดหวังไว้ด้วยการคุยกับลูกทีมแบบตรงไปตรงมามากขึ้น ถึงจะเล่นบทกุนซือที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังแสดงภาวะผู้นำ และชนะใจลูกทีมได้มากขึ้น

ขณะที่ฤดูกาล 2020-21 ถือเป็นฤดูกาลที่เจอร์ราร์ดพาทีมทำผลงานได้ทะลุเพดานอย่างแท้จริง เล่นมา 32 นัดก็การันตีตำแหน่งแชมป์โดยที่ยังไม่แพ้ใครในลีกด้วย ผลงานในถ้วยยุโรปก็ทำได้ดีทีเดียว ได้ลุ้นผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วย ซึ่งเจอร์ราร์ดก็ยอมรับว่า พวกเขายังเชื่อมั่นในความฝันเรื่องฝ่าฟันเข้าไปสู่รอบลึก ๆ ในรายการถ้วยยุโรป

ตลอดเส้นทาง 3 ฤดูกาลของเจอร์ราร์ด จุดเด่นประการหนึ่งของเจอร์ราร์ดที่เขาแสดงให้เห็น คือ ความสามารถในการปรับตัวยืดหยุ่นเข้ากับสถานการณ์ ในฐานะกุนซือที่เพิ่งคุมทีมใหญ่ครั้งแรก เขารู้ดีว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้เพียงชั่วข้ามคืน เจอร์ราร์ดค่อย ๆ ปรับไปตามสถานการณ์ก่อน เมื่อเริ่มเรียนรู้และเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จุดที่ต้องแก้และเทียบกับเป้าหมายที่เขาต้องการให้ทีมเป็นไปในแต่ละแบบ จากนั้นค่อย ๆ ปรับไปทีละขั้น

ตัวแปรที่น่าสนใจ คือ เจอร์ราร์ด เล่าไว้ว่า เขาสื่อสารกับประธานสโมสรตลอดเวลา และบทสนทนากับเหล่าฝ่ายบริหารก็ตรงไปตรงมา สะท้อนสภาพของทีมที่เป็นอยู่ตามความเป็นจริง มองระยะห่างจากเป้าหมาย และจะต้องใช้อะไรเพื่อลดระยะห่างนั้น เรื่องนี้หลายคนอาจมองว่าก็เป็นลักษณะการทำงานทั่วไป อันที่จริงแล้วหลายครั้งที่การสื่อสารภายในระหว่างคนทำงานโดยเฉพาะเกี่ยวกับปัญหาที่แท้จริงมักคลาดเคลื่อนไปจากหน้างาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ความคลาดเคลื่อนนี้ส่วนใหญ่ทำได้แค่ซื้อเวลาไว้ สุดท้ายแล้วปัญหาจริงก็ไม่ถูกขจัดไป

ความสำเร็จในปีนี้เสมือนบทพิสูจน์ด่านแรกของเจอร์ราร์ด สำหรับกุนซือเรนเจอร์ส (หรือเซลติก) ที่ไม่ว่าใครจะคุมก็ตาม เป้าหมายเดียวคือแชมป์เท่านั้น เมื่อสำเร็จดังหมายแล้ว สาวกเดอะค็อปที่หวังว่าเจอร์ราร์ดจะกลับมาทำงานกับทีมเก่า เวลานี้กูรูหลายสำนักฟันธงกันว่า “ยาก” ฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ยังเป็นเรื่องท้าทายและสมควรพิสูจน์ตัวเองอีกขั้นหนึ่งสำหรับอนาคตระยะยาว แม้แต่รอย ฮอดจ์สัน อดีตนายเก่าของเจอร์ราร์ด ก็เชื่อว่าอดีตแข้งพลังเทอร์โบรายนี้มีอนาคตสดใสรออยู่ในวันข้างหน้า

อ่านข่าวต้นฉบับ: ปมสำคัญ เจอร์ราร์ด พา เรนเจอร์ส ชูแชมป์ลีกแรกในรอบทศวรรษ

ข่าวกีฬาประชาชาติธุรกิจ : www.prachachat.net

Leave a Reply