“อุดร” รั้งฝูงไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ที่เอเวอร์กรีนฯ รอบแรก

อุดร ดวงเดชา โปรจอมเก๋าวัย 49 ปีคืนฟอร์มเก็บ 7 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้ ก่อนขึ้นรั้งจ่าฝูงรอบแรกด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 65 นำหน้า นิติธร ทิพย์พงษ์, สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย และ พล เขมรัตน์ เพียงสโตรกเดียว ในศึกกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการสิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี คลาสสิก 2020 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ เอเวอร์กรีน ฮิลล์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,289 หลา พาร์ 72 จ.กาญจนบุรี สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน “สิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี คลาสสิก 2020”​ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท โดยจัดภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ โควิด-19 จากทางภาครัฐอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ จากการสนับสนุนร่วมกันของ บริษัท สิงห์

อุดร ดวงเดชา โปรจอมเก๋าวัย 49 ปีคืนฟอร์มเก็บ 7 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้ ก่อนขึ้นรั้งจ่าฝูงรอบแรกด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 65 นำหน้า นิติธร ทิพย์พงษ์, สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย และ พล เขมรัตน์ เพียงสโตรกเดียว ในศึกกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการสิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี คลาสสิก 2020 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ เอเวอร์กรีน ฮิลล์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,289 หลา พาร์ 72 จ.กาญจนบุรี

สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน “สิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี คลาสสิก 2020”​ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท โดยจัดภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ โควิด-19 จากทางภาครัฐอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ จากการสนับสนุนร่วมกันของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. รายการนี้เป็นการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท รายการที่เจ็ดของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ฤดูกาลนี้ แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 54 หลุม ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.2563 ณ สนามเอเวอร์กรีน ฮิลล์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,289 หลา พาร์ 72 จ.กาญจนบุรี

รอบแรกของการแข่งขันเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา อุดร ดวงเดชา อดีตนักกอล์ฟทำเงินสูงสุดของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 3 สมัยซ้อนในยุค 2010-2012 คืนฟอร์มเก่งเก็บ 7 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมแรก ก่อนขึ้นนำหลังจบรอบแรกด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 65 นำหน้า นิติธร ทิพย์พงษ์, สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย และ พล เขมรัตน์ เพียงสโตรกเดียว

อุดร ดวงเดชา นักกอล์ฟวัย 49 ปีจากเชียงใหม่ อดีตแชมป์หลายรายการแต่ชนะไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ครั้งหลังสุดที่วอเตอร์มิลล์ฯ เมื่อปี 2016 เปิดเผยว่า “ปกติที่ผ่านมาเหมือนฟอร์มมันยังไม่กลับมา ปีนี้ไม่ดีเลย พอมาวันนี้ตีเหล็กดีมากแล้วก็ไดร์ฟเวอร์อยู่ในแฟร์เวย์หมดเลย โชคดีที่ฟิลลิงมาตั้งแต่หลุมแรกที่ออกไปได้เบอร์ดี้เลยทำให้มั่นใจขึ้นมาเยอะ”

นักกอล์ฟจอมเก๋าที่ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเคยสร้างสถิติสนามเอเวอร์กรีนฯ ด้วยการหวด 11 อันเดอร์พาร์ 61 ในการแข่งขันรอบสุดท้ายและแซงขึ้นไปคว้าแชมป์มาครองสำเร็จ กล่าวต่อว่า “ผมเป็นเจ้าของสถิติสนามที่นี่นะ เคยตี 11 อันเดอร์วันสุดท้ายแล้วแซงชนะ สำหรับในปีนี้ที่ผ่านมาก็ตีดีนะ แต่พัตต์ยังไงก็ไม่ลง มาวันนี้ทั้งช็อตทั้งอะไรมาครบหมด อยากได้ฟอร์มแบบนี้ทุกวันคิดว่าน่าจะมีลุ้น”

ทางด้าน นิติธร ทิพย์พงษ์​โปรวัย 24 ปี จากปทุมธานีที่กำลังล่าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สองในอาชีพต่อจากชัยชนะที่เขาใหญ่ กอล์ฟคลับ เมื่อปี 2017 ประเดิมวันแรกด้วยการเก็บ 6 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้เผยว่า “เกมดีครับ เล่นได้ตามเกมเลย คิดว่าตีให้ออนเยอะๆเดี๋ยวมันก็จะตีดีเองแล้วก็ทำได้ สำหรับผลงานในปีนี้ไมค่อยดีเพราะตอนต้นปีวางแผนจะเล่นกอล์ฟให้สนุกหลังจากเล่นกอล์ฟเครียดไปนิด ปรากฏว่ามันสนุกเกินไปจนไม่มีเป้า จนต้องกลับมาเซ็ตเมนทัลให้กลับมาสู่เกม เพื่อให้เรามีเป้ามากขึ้น สำหรับวันนี้ถือว่าเกินเป้าครับ”

ขณะที่ สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย โปรวัย 27 ปีจากกรุงเทพฯ เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ที่กบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ หรือ เคบีเอสซี เมื่อปี 2018 เปิดเผยหลังจบรอบแรกด้วยการเก็บ 6 เบอร์ดี้ ซึ่งรวมถึง 4 เบอร์ดี้ติดต่อกันในช่วงหลุม 9-12 กล่าวว่า “จริงๆช่วงนี้ตีไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่พอดีได้ร่วมงานกับแค็ดดี้ใหม่มาสองรายการแล้ว แมทช์ที่แล้วแย่กว่านี้แต่ยังขึ้นมาจบท็อปเทนได้ แค็ดดี้ช่วยได้เยอะมาก สำหรับเกมวันนี้ไดร์ฟดีและที่สำคัญพัตต์ดีมาก แต่ยังมีปัญหากับเหล็ก อยากตีเหล็กได้แน่นอนกว่านี้หากต้องการได้ลุ้น”

สำหรับ พล เขมรัตน์ หนุ่มวัย 41 ปีจากศรีสะเกษ ประเดิมวันแรกเก็บเข้ามา 7 เบอร์ดี้ ทว่าไปพลาดออกโบกี้ที่หลุม 17 ทำให้สกอร์ตามหลังผู้นำหนึ่งสโตรกกล่าวว่า “ค่อนข้างพอใจครับเพราะสภาพวันนี้คือลมแรงมาก ถือเป็นเกมที่ดีเลยครับ เกมแพลนคือพยายามเน้นแฟร์เวย์แล้วก็ตีออน เพราะส่วนใหญ่ถ้ามันไม่อยู่แฟร์เวย์แล้วเล่นลำบาก บวกกับช็อตแอพโพรชท่ามกลางกระแสลม รวมถึงตำแหน่งธงที่ปักด้วย มันก็เลยต้องวางเกมตั้งแต่ทีออฟซึ่งสามารถทำได้ตามเป้าทุกอย่าง”

ตามหลังผู้นำ 2 สโตรกที่สกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 67 ตามเข้ามาอีก 4 คน ประกอบด้วย สดมภ์ แก้วกาญจนา, ธนกร ทิพยจันทร์, ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ และ วิสุทธิ์ อรรจนาวัฒน์ ขณะที่ ภูสิทธิ ทรัพย์อัประไมย, นรัส เหลืองเพชราภรณ์, กิตติพร ชวนะพงศ์, วีรวิทย์ สกุลเจริญรัตน์ และ กฤติน สุนทรนนท์ อยู่อันดับเก้าร่วมกันที่สกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 ตามหลังผู้นำเพียง 3 แต้มเท่านั้น

ข้อมูลจาก : สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย : https://thailandpga.or.th/

Leave a Reply